ตอนที่จ้างเค้าเลี้ยง ช่วงนั้นน้องแพรวอายุ 4 เดือน เป็นช่วงที่ป่วยบ่อยมาก ส่วนมากจะเป็นหวัด เป็นหลายวันกว่าจะหาย พอหายซักอาทิตย์ก็กลับมาเป็นอีกจนหน้าสงสารเพราะหายใจไม่ออกนมก็กินไม่ได้ ก็เลยพาไปหาหมอ แล้วได้ยามากิน แต่มียาอยู่ตัวหนึ่ง น้ำยาสีเหลืองใสหมอบอกว่า ให้กินเฉพาะเวลาเด็กหายใจไม่ออกเท่านั้น
อย่าใช้บ่อย ครั้งแรกที่กิน เราก็ให้ลูกกินเวลากลางคืนที่เค้าจะกินนมแล้วหายใจไม่ออกพอกินยาไปแป๊ปเดียว ลูกก็กินนมได้หายใจสบาย เราก็เลยให้ลูกกินทุกครั้งที่หายใจไม่ออก แต่เป็นเพราะช่วงนั้นน้องแพรว เป็นหวัดบ่อยมาก ก็เลยต้องกินยาลน้ำมูกประจำ
จนวันหนึ่งก็เกิดเรื่องจนได้ วันนั้นพากันไปห้าง น้องแพรวก็ปกติดี เล่นสนุกสนาน พอเราเข้าไปอุ้ม จะพากลับบ้านเราสังเกตเห็นหูของลูกมี น้ำเหลืองๆ
แล้วมีคราบเลือดใสๆ ตอนนั้นตกใจมากที่สุด ไม่รู้ว่า
ลูกเป็นอะไร รีบพาไปหาหมอเฉพาะทางเรื่องหูเลยพอไปพบหมอๆ บอกว่าน้ำมูก ทะลุออกแก้วหู เป็นเพราะน้องแพรวเป็นหวัดบ่อยแล้วพอกินยาลดน้ำมูกทำให้น้ำมูกไม่ไหลออกมามันก็เลยทะลุออกแก้วหู หมอท่านพูดให้ฟังว่า เวลาเป็นหวัดเราต้องสั่งน้ำมูกทิ้งแต่เด็กเล็กยังทำไม่เป็น ต้องใช้เครื่องดูดน้ำมูกออกแต่ ถ้าบางครั้งที่ดูดใช้ ไม่ได้ผล ก็ต้องปากของแม่เนี่ย แหละที่ต้องดูดน้ำมูกให้ลูก เวลาที่หายใจไม่ออก เพราะการกินยามากๆ มันไม่ดีต่อเด็กออ่น
โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
นี่เป็นเพราะการเลี้ยงลูกในแบบไม่รู้ ของเรา
พอลูกหายใจไม่ออกสงสารลูกก็เอายาหยุดน้ำมูก
ให้กินตลอดไม่คิดว่าจะเกิดผลกระทบกับลูกเลย
มันเป็นบทเรียนบของแม่มือใหม่จริงๆ
แต่นี่แค่เริ่ม ต้น ยังมีเรื่องราวอีกมากมายในการเลี้ยงลูก แบบผิดๆถูก ด้วยตนเอง
## ไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังค่ะ##
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น